เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่12ต.ค. ที่กรมการขนส่งทางบก(ขบ.)นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและมอบนโยบาย ขบ. โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ
นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ ขบ. ไปดำเนินการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในการใช้บริการของ ขบ. รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานมากขึ้น และการแก้ปัญหาลดมลพิษ และฝุ่นPM2.5 จากยานยนต์ รวมทั้งให้ ขบ. ไปพิจารณาจำนวนจดทะเบียนรถสะสมทั่วประเทศที่มี 44 ล้านคัน ให้สอดคล้องกับจำนวนใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) ที่มีกว่า 33 ล้านใบ เพื่อลดอุบัติเหตุทางท้องถนน เนื่องจากพบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่มีรถ ขับรถได้ แต่ไม่มีใบขับขี่ เป็นต้น
ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารของกลุ่มแท็กซี่ และรถจักยานยนต์ (จยย.) รับจ้าง ที่ผ่านมา กลุ่มแท็กซี่มองว่าค่าโดยสารของแท็กซี่สาธารณะมีราคาถูก ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่างบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด มีราคาที่สูงแต่กลับมีผู้ใช้บริการมากกว่า สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนเลือกใช้รถสาธารณะให้ความสำคัญเรื่องบริการมากกว่าเรื่องราคา ดังนั้น ขบ. ต้องใช้องค์ความรู้ที่มีในการปรับสัดส่วนทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงบริหารจัดการให้สามารถดำเนินการร่วมกันได้
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าว ตนสั่งการให้ ขบ. จัดตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดทันที รวมทั้งหารือร่วมกันทุกภาคส่วน โดยให้ภาครัฐดูแลรับผิดชอบผู้ประกอบการรายเล็กที่ไม่มีเงินทุนและเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถบริหารจัดการแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยีในราคาถูกที่สุด สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่า การจัดทำแอปพลิเคชันที่เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ กระทรวงฯ จะเดินหน้าต่อ ที่ผ่านมาการที่กลุ่มม็อบเข้าไปร้องเรื่องที่กระทรวงคมนาคม ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร ควรลงพื้นที่ร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อให้ข้อมูลมีความครอบคลุมทุกมิติ
ด้านนายจิรุตม์ กล่าวว่า จากปัญหาเรื่องแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารนั้น เบื้องต้น ขบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. กล่าวตักเตือนคนขับแท็กซี่ที่กระทำผิด และสั่งเข้มให้รักษามาตรฐานให้บริการประชาชนด้วย ปัจจุบัน ขบ. ได้มีการรองรับแอปพลิเคชันเรียกรถรับจ้างที่ประชาชนสามารถใช้เป็นทางเลือกในการเดินทางแล้ว จำนวน 7 ราย
สำหรับในปีงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 67 ขบ. ขอจัดสรรจำนวน 4,300 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นดำเนินการงานด้านบริการขนส่ง รวมถึงงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย ระยะที่ 2 วงเงิน 649 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผู้พัก 3 ปี (ปี 66-68) ส่วนปีงบประมาณ 66 ได้รับจำนวน 3,500 ล้านบาท เบิกจ่ายงบไป 88-89%
นอกจากนี้ ขับเคลื่อนโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าในภูมิภาคต่อเนื่อง 2 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 4,212 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย วงเงิน 2,851 ล้านบาท แบ่งก่อสร้างเป็น 2 ระยะ ได้แก่ งบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระยะ (เฟส) ที่ 1 วงเงิน 1,300 ล้านบาท และงบก่อสร้างระยะที่ 2 วงเงิน 636 ล้านบาท ส่วนงบประมาณที่เหลือเป็นการลงทุนของภาคเอกชนวงเงิน 915 ล้านบาท โดยเฟส 1 ขบ. ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่แล้ว ส่วนเฟส 2 ผู้รับจ้างเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา คาดแล้วเสร็จในปี 68 ใช้เวลา 3 ปี
นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (PPP)โดยมี บริษัท เค.เอ็น.อาร์ กรุ๊พ จำกัด เป็นผู้ยื่นประมูลรายเดียว อยู่ระหว่างการตรวจร่างสัญญาของอัยการสูงสุด จากนั้นเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน ก่อนลงนามกับเอกชนต้นปี 67 เพื่อให้เอกชนเข้าไปบริหารศูนย์ขนส่งสินค้าเชียงของต่อไป โดยมีอายุสัมปทาน 15 ปี
ด้านโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม วงเงิน 1,361 ล้านบาท ในส่วนของภาครัฐดำเนินการก่อสร้าง เดือน ก.ย. 66 มีความคืบหน้ากว่า 25.578% เร็วกว่าแผน 3.723% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างงานระบบระบายน้ำ งานถนนและลานคอนกรีตเสริมเหล็ก งานฐานรากอาคารต่างๆ งานทางลอด (Underpass) สำหรับรถบรรทุกเข้า-ออกโครงการ คาดกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 67 เปิดบริการปี 68 อย่างไรก็ตาม ขบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม คือ จ.สุราษฎร์ธานี คาดว่า จะเสนอ ครม. ภายในต้นปี 67
นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ขบ. เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อบูรณาการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าจากการขนส่งทางถนนไปสู่ระบบราง ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้การขนส่งสินค้าทางรางเป็นกระดูกสันหลังใหญ่ในการขนส่งของประเทศ อีกทั้งขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเปิดประตูการค้า ก้าวเป็นศูนย์กลาง (HUB)เชื่อมโยงการเดินทางด้วย ทั้งนี้ ขบ. จัดเตรียมพื้นที่สร้างเส้นทางรถไฟไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเชื่อมต่อศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ ในโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ขณะที่ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม และเชื่อมไปยัง สปป.ลาว-จีน